Boy in the Striped Pajamas (2008): โศกนาฏกรรมเเสนเจ็บปวดที่ประวัติศาสตร์ทิ้งไว้สอนเรา

 

หากใครกำลังหาหนังที่เกี่ยวกับสงครามประวัติศาสตร์ ที่สะท้อนแง่คิดต่างๆ วันนี้แอดมินขอแนะนำ “Boy in the striped pajamas เด็กชายในชุดนอนลายทาง” เค้าโครงมาจากหนังสือนิยาย แต่งโดย John Boyne และเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อปี 2008

 

 

ในตัวเรื่องกล่าวถึงสงครามประวัติศาสตร์ของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และมิตรภาพที่ไม่มีพรมแดน ของเด็กน้อยนาซีกับชาวยิว Bruno วัย 8 ขวบ ซึ่งชอบอ่านแต่หนังสือการผจญภัย และมีคุณพ่อเป็นนายทหาร ในเย็นวันหนึ่งระหว่างทางที่ Bruno กำลังเดินกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนๆ มีกำลังพลทหารเอสเอสกำลังกวาดต้อนชาวยิวจากชุมชนหนึ่ง ซึ่งบรูโน่กับเพื่อนๆก็ไม่ได้รับรู้อะไรมากมาย จนเมื่อ Bruno กลับมาถึงบ้านก็พบความประหลาดใจกับที่บ้านกำลังเตรียมอะไรกันวุ่นวาย แม่และพี่สาวในวัย 12 ปี จึงบอกว่ากำลังจะฉลองที่พ่อได้เลื่อนตำแหน่ง และการเลื่อนตำแหน่งในครั้งนี้ ทุกคนจะต้องย้ายไปยังบ้านหลังใหม่กันหมด พ่อของ Bruno ได้ย้ายมาประจำการที่ค่ายมรณะกักกันและสังหารชาวยิว ทั้ง Bruno และพี่สาวไม่รู้เลยว่างานของพ่อต่างจากทหารทั่วไปอย่างไร แต่ทว่าในบ้านมีลูกน้องของพ่อแต่ละคนมาดเฮี้ยบเดินเข้าๆออกๆ ความจริงจึงเริ่มเปิดเผยทีละนิด…

 

 

 

เมื่อ Bruno มองออกมานอกหน้าต่างก็จะเห็นอาคารที่เหมือนกับฟาร์มหรือโรงนา มีชาวนาที่ท่าทางแปลกๆ ทั้งผู้ใหญ่และเด็กที่ใส่ชุดนอนลายทางทั้งที่ยังกลางวันแสกๆ เมื่อ Bruno เบื่อกับการอยู่บ้านจึงแอบออกนอกบ้านตอนพ่อกับแม่ไปทำธุระ และได้พบกับเด็กชายในชุดนอนลายทางคนหนึ่งชื่อว่า Shmuel ที่หลบมานั่งอยู่ตามลำพังจากนั้นทั้งสองได้นั่งทำความรู้จักกันตรงรั้วลวดหนามที่กั้นเขาทั้งสองเอาไว้ตั้งแต่นั้น Bruno จึงได้รู้ว่าที่นี่คือค่ายกักกันชาวยิวที่ถูกจับมาใช้แรงงาน และพ่อของ Shmuel ถูกรมแก๊สเสียชีวิต โดยที่ Shmuel ไม่รู้เลย

 

 

 

ทั้งสองจึงช่วยกันตามหาโดยที่ Bruno ขุดโพรงข้ามรั้วลวดหนามและใส่ชุดนอนลายทางที่ Shmuel เตรียมไว้ให้เพื่อให้ดูกลมกลืนกับคนอีกฝั่ง ทั้งคู่ช่วยกันตามหาพ่อของ Shmuel แต่ก็ไม่พบและยังหลงไปกับชาวยิวกลุ่มใหญ่ที่กำลังจะโดนประหารโดยไม่รู้ตัว  หลังจากนั้นผู้ชมต้องไปติดตามกันเอาเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กทั้งสองต่อไป คนใดคนหนึ่งจะมีชีวิตรอดหรือไม่

 

 

 

หนังเรื่องนี้สะเทือนอารมณ์เป็นอย่างยิ่งครับ หนังจะเนือยๆ เเทบจะทั้งเรื่องเลย เปรียบเป็นกราฟก็เป็นกราฟเเบบคงเส้นคงวา ไม่มีจุดพีคสะเทือนขวัญสั่นประสาท ไม่มีจุดที่น่าเบื่อจัง ปิดดีไหม…เเต่จะนำพาอารมณ์ของผู้ชมไปจนถึงที่สุดเเละตัดจบเหมือนปิดสวิสซ์ทีเดียว อยากรู้ว่าที่เเอดพูดมาจะเป็นอย่างไร ต้องไปลองดูกันเอาเอง เตือนไว้สักนิด ถ้าใครอ่อนไหวกับหนังสงคราม การถูกทารุณอย่าดูนะครับ เพราะอาจมีภาพที่ทำให้รู้สึกจิตตก ซึมเศร้าก็เป็นได้ ขอให้สนุกกับการรับชมเรื่องนี้ครับ หนังอาจเก่าเเล้ว เเต่เนื้อหาดีมากๆ ดีจนอยากเก็บไว้เป็นหนังขึ้นหิ้งเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว IMDB ให้ 7.8 พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงครับ!